7 เทคนิคทาเล็บสวยเนียนกริบ ไม่ง้อช่าง! ทำเองที่บ้านก็สวยปังได้ดั่งใจ

 7 เทคนิคทาเล็บสวยเนียนกริบ ไม่ง้อช่าง! ทำเองที่บ้านก็สวยปังได้ดั่งใจ


ศัลยกรรมเกาหลี ร้อยไหม ดึงหน้า ฉีดโบท็อกซ์ รอบเอว 360 องศา และอื่นๆ อีกมากมาย เข้าถึงง่าย ไม่ต้องบินไกลถึงเกาหลี ที่ K Beauty Hospital


หนึ่งในความงามที่สาว ๆ ให้ความใส่ใจไม่น้อยไปกว่าใบหน้าและผิวพรรณในร่างกาย คือเล็บ เพราะความสวยจะต้องได้ครบแบบหัวจรดปลายเท้า แต่เชื่อว่าสาวหลายคนอาจไม่มีเวลาว่างมากพอที่จะไปทำเล็บ แต่ครั้นจะให้ทาเองก็อาจจะลำบาก แถมไม่สวยดั่งใจ ดังนั้นจึงขอแนะนำ 7 เทคนิคที่คุณจะสามารถทาเล็บได้เองที่บ้าน แล้วสวยเลิศอย่างกับไปทำมาจากร้าน ไม่ต้องง้อช่างก็ทำเองได้ ตามนี้เลยจ้า

1.เริ่มจากความสะอาด

จุดเริ่มต้นของการทาเล็บให้มีประสิทธิภาพ คือ การทำความสะอาด เล็บและผิวรอบเล็บ ด้วยการใช้น้ำยาล้างเล็บเทลงบนสำลี จากนั้นนำมาวางไว้บนเล็บประมาณ 5 วินาทีแล้วเช็ดออก ใช้น้ำยา Cuticle Remover เช็ดลงที่บริเวณขอบเล็บ ซึ่งจะเป็นส่วนติดกับผิวหนัง จะเป็นตัวช่วยรักษาทรงเล็บให้มีความสวยงามมากขึ้น และทำให้เล็บงอกใหม่มีความแข็งแรง ผิวเรียบเนียนมากกว่าเดิม หลังจากนั้นให้แช่เล็บภายในน้ำประมาณ 10 นาที

2.จัดการเนื้อรอบเล็บ

เนื้อบริเวณรอบเล็บ เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่อาจจะทำให้การทาเล็บไม่สวย ดังนั้นเมื่อแช่เล็บตามเทคนิคที่ 1 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้เช็ดพร้อมมาส์กเล็บ จากนั้นนำ Cuticle Butcher มาขูดที่บริเวณขอบเล็บ เพื่อนำเยื่อขาว ๆ ที่อยู่รอบเล็บออก จะทำให้สีเล็บติดดีขึ้น แต่ควรขูดให้พอประมาณ ไม่ลึกหรือรบกวนหนังรอบเล็บมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้ติดเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย

3.เก็บรายละเอียดด้วยการตะไบ

สำหรับบริเวณปลายเล็บ ให้ใช้ตะไบขัด ไม่ว่าจะต้องการทรงไหนก็ตาม ให้ใช้ตะไบตกแต่งและควรเก็บรายละเอียดให้เรียบร้อย ไม่ทำให้เกิดขุยหรือกลายเป็นรอยที่บริเวณเล็บมากจนเกินไป และควรค่อย ๆ ตะไบ ด้วยการขัดไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อทำให้เล็บไม่ฉีก จากนั้นใช้ Nail Buffer ปัดที่บริเวณหน้าเล็บให้เรียบร้อย เพื่อเป็นการลดคมและทำให้รอยขรุขระดูเรียบเนียนมากขึ้น ทั้งยังทำให้ผิวหน้าเล็บดูเงางามมากกว่าเดิม

4.ขัดหน้าเล็บ

หลังจากการตะไบและขัดหน้าเล็บเรียบร้อยแล้ว ให้ใช้น้ำยาล้างเล็บมาเช็ดที่บริเวณของเล็บที่ถูกขัดอีกครั้ง เพื่อเป็นการขจัดน้ำมันและฝุ่น จากการตะไบเล็บออก จะช่วยทำให้การทาสีติดง่ายและทนนานมากขึ้น

5.ลงน้ำยา Base Coat

ใช้น้ำยาเปลี่ยน Base Coat ก่อนที่จะลงสีเล็บจริง เพื่อเป็นการป้องกันสีซึมเข้าสู่เล็บ จึงช่วยให้หลังการล้างสีออก เล็บจะไม่เหลือง แต่ควรเลือกแบรนด์ที่ใช้แล้วไม่ก่อให้เกิดความเหนียวมากเกินไป

6.เริ่มทาสีเล็บ

ก่อนจะลงสีเล็บไม่ควรเขย่าขวดน้ำยาเด็ดขาด แต่ควรเป็นการหมุนขวดแทนการเขย่า เพื่อไม่ให้เกิดฟอง จะทำให้การทาเล็บเรียบเนียนง่ายมากขึ้น จากนั้นให้นำพู่กันทาเล็บออกจากขวด แล้วป้ายสีไปที่ด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อให้เหลือสีติดพู่กันเพียงแค่ด้านเดียว พร้อมทาที่กึ่งกลางเล็บก่อน จากนั้นจึงค่อยปิดที่บริเวณด้านข้างทั้ง 2 ด้าน และปิดท้ายด้วยการทาทับที่ด้านบน จากนั้นรอสักครู่แล้วทาซ้ำ 2 รอบ จะทำให้สีเรียบเนียนและติดทนนาน แต่ถ้าทาแล้วมีเลอะออกนอกขอบเล็บ ให้ใช้วาสลีนทารอบบริเวณเล็บก่อนการทาสี จะช่วยทำให้การเช็ดสีออกได้ง่ายขึ้น

7.ลงปิดด้วย Top Coat

เมื่อทาสีเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้นให้รอเล็บแห้ง แล้วทาปิดทับด้วย Top Coat เพื่อทำให้เกิดความเรียบเนียนและปกป้องสีเล็บให้ติดทนนาน มีสีสดใสอยู่ตลอด โดยให้ลากแปลงเพื่อปิด Top Coat แบบเดียวกับการทาสี แต่ควรทาหลังจากสีเล็บแห้งแล้วจริง ๆ เท่านั้น รวมไปถึงการเลือก Top Coat ควรเลือกแบบแห้งเร็ว

หลังการทาสีเล็บเสร็จเรียบร้อยทุกขั้นตอน แนะนำสาว ๆ ให้เลือกออยบำรุงเล็บมาทาทับซ้ำ โดยเฉพาะบริเวณผิวขอบเล็บควรเน้นให้มากที่สุด เพื่อทำให้ไม่เกิดปัญหาเนื้อเกิน ผิวด้าน และไม่ทำให้เล็บแห้ง เลือกใช้เป็นน้ำมันจากสารสกัดธรรมชาติอย่างน้ำมันมะพร้าว จะช่วยทำให้บำรุงทั้งเล็บและผิวรอบเล็บได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว รู้แบบนี้แล้วสาว ๆ ไปทำตาม รับรองสีสวยเลิศโดนใจแน่นอนค่ะ





ขอขอบคุณบทความดีๆจาก  Sanook

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

"ฉันสวย" เรื่องของความสวย ที่คนสวยไม่ได้บอก

Water Fasting คืออะไร ลดน้ำหนักได้จริงไหม มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร

5 วิธีรักษาสิวผด สยบปัญหาผิวไม่เรียบเนียนใสอย่างได้ผลชะงัด